Monday, December 26, 2016

ฝรั่งมาบ้าน : แอนนี่ (Anny)




สวัสดีค่ะ หายไปนานเนื่องจากค่อนข้างยุ่งและเป็นช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศก
อีกทั้งมีปัญหากับ tool ที่เขียน blog นี้ล่ะค่ะ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า อันนี้เป็นเรื่องราวตั้งแต่เดือนกันยายนค่ะ แต่เพิ่งได้มาเขียนวันนี้
ไหนๆ ก็อดไปเที่ยวช่วงหยุดยาววันรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ละกัน

สาวน้อยคนที่ 4 ที่มาเล่าให้ฟังวันนี้ นางมีชื่อว่า แอนนี่ ค่ะ นางมาจากอังกฤษแต่มีเชื้อสายศรีลังกา เป็นนักศึกษากฎหมายที่เนเธอร์แลนด์
ตอนนี้ฝึกงานอยู่ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา โปรไฟล์นาง นานาชาติดีมั้ยล่ะคะ
 เผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงหยุดยาวของกัมพูชา นางเลยขออาจารย์มาเที่ยวเมืองไทย โดยมาพักที่คอนโดของหน่อยนี่ล่ะค่ะ

วันที่นัดกัน นางคิดว่าจะมาถึงหมอชิตประมาณ 6 โมงเย็น แต่รถบัสมาช้ามากๆ ไปถึง เที่ยงคืน แถมน้ำท่วมหมอชิตอีกต่างหาก
นางต้องนั่งแท๊กซี่มาค่ะ พอมาถึงแท๊กซี่มาขอเงินหน่อยเพิ่มอีก 200 แอบเคืองแท๊กซี่มันเหมือนกันนะเนี่ย

หนูน้อยแอนนี่เล่าให้ฟังว่า พอนางมาถึงหมอชิต แท๊กซี่เห็นนางเป็นชาวต่างชาติก็ขูดรีดนางกันยกใหญ่
บางคันบอก 800 บางคันเรียก 1500 ก็มี มีคันนี้ดีหน่อยเรียก 500 นางบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่ 300 เดี๋ยวค่อยไปเอาที่เพื่อนละกัน

เฮ้อออออออออออออ. (ถอนหายใจให้กับระบบการบริการของเมืองไทย)

พอขึ้นห้องก็อาบน้ำอาบท่า เข้านอนกัน

ตื่นเช้ามาวันนี้ก็วางแผนกันว่าอยากไปเที่ยวไหน แอนนี่บอกว่านางอยากไปตลาดนัดจตุจักร เพราะนางเป็นขาช้อป 
แต่หน่อยแนะนำว่าจตุจักรควรไปตอนบ่ายแก่ๆ หน่อย เพราะอากาศไม่ร้อนมาก เลยต้องหาที่เที่ยวก่อนที่จะไปจตุจักรกัน
หน่อยเลยเสนอ "พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน" ค่ะ

เนื่องจาก 
1 หน่อยไม่เคยไป
2 อยู่ใกล้ๆ รถไฟฟ้า. ไปไม่ยาก
3 น่าจะสวย

แล้วก็มุ่งหน้าไปยัง  BTS สถานีสนามกีฬาฯ กันค่ะ





เดินเข้ามาจากปากซอยเกษมสันต์ 2 มาไม่ไกลก็มีรถรับส่งค่ะ. นั่งไปนิ๊ดดดเดียวก็ถึงแล้ว. ค่าเข้าชมคนละ 150 ค่ะ
ต้องเข้าชมเป็นรอบๆ โดยมีไกด์พาไปค่ะ สามารถเลือกไกด์ได้หลายภาษา เท่าที่เห็นมีทั้งภาษา ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน จีนค่ะ
เราสองคนเลือกไกด์ภาษาอังกฤษค่ะ (แหงล่ะ แอนนี่เค้าคงจะเลือกภาษาญี่ปุ่นหรอกนะ) 
ตรงภาพข้างบนนี้เป็นร้านขายของที่ระลึก แต่ราคาไม่ค่อยเป็นมิตรกับเราสองคนซักเท่าไร เลยได้แต่เดินวนๆ ไปรับแอร์เย็นๆ ระหว่างรอรอบของเราแล้วก็ออกมาค่ะ



มีสาธิตการเลี้ยงตัวไหม และผลิตเส้นไหมค่ะ 



ต้มรังไหมเพื่อจะสาวไหม...สาวค่ะ (เป็นคำนามเฟ้ย ไม่ใช่คำถาม) 



ตรงนี้เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟค่ะ น่านั่งมาก ถ้าอากาศไม่ร้อน 



อ่างบัว จัดได้สวยมาก 



ปลาที่สุภาพที่สุด...ปลาครับ เอ๊ย ปลาคาร์ป (เล่นมุกพร่ำเพรื่อจังน้อ) 



จอก หรือ แหน หว่า? (สับสนระหว่างสองอันนี้ประจำเลยค่ะ) 



ได้เวลาแล้ว มารวมกันที่นี่เพื่อที่จะไปทัวร์บ้านคุณจิม ทอมป์สันกันค่ะ 



เข้ามาถึงตัวบ้านแล้ว จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่เราจะถ่ายรูปจากการทัวร์บ้านได้ค่ะ

ข้างในบ้านนั้นคุณจิมได้เก็บของเก่าๆ จากหลายๆ ประเทศไว้เยอะมาก ใครที่ชอบข้าวของโบราณแนะนำให้มาชมค่ะ






จบการทัวร์แล้ว เราก็นั่งรถตุ๊กๆ สองต่อนแบบนี้กลับไปตรงปากซอยค่ะ




ก่อนกลับแอบถ่ายมาโครห่วยๆ มารูปนึง

ออกมาจากพิพิธภัณฑ์แล้วเราก็มุ่งหน้าไปจตุจักรกันค่ะ. 




เนื่องจากหน่อยไม่ได้มาจตุจักรมานานมากกกกแล้ว พอมาถึงหน่อยก็ตื่นตาตื่นใจกับมันมากราวกับว่าเพิ่งมาครั้งแรกเหมือนแอนนี่ค่ะ
เราช้อปปิ้งกันอย่างสนุกสนาน แวะเกือบทุกร้าน



ร้อนและเหนื่อยมาก เลยแวะร้านน้ำผลไม้ปั่นซะหน่อย แอนนี่ชอบมากเพราะราคาถูก แถมหวานอร่อยแบบที่นางชอบค่ะ

พอเดินครบรอบนอกของจตุจักรเราก็เหนื่อยมาก อีกทั้งแอนนี่บอกว่าอยากไปเยาวราช อยากกิน street food (อาหารข้างทาง) มากๆ

แต่เวลาตอนนั้นเพิ่งจะห้าโมงเย็น เกรงว่าร้านรวงที่เยาวราชจะยังไม่เปิดกัน เลยพานางไปนั่งตากแอร์ที่พารากอนแป๊บแล้วก็พานางไปค่ะ




ถึงแล้วเยาวราช ช่วงใกล้เทศกาลกินเจก็จะมีธงเหลืองๆ แบบนี้ล่ะค่ะ




เราเดินส่องของกินไปตามสองข้างถนน. สุดท้ายมาจบที่ร้านฮั่ว เซ่ง ฮงค่ะ แอนนี่สั่งผัดไทย หน่อยสั่งอะไรจำไม่ได้แล้ว แหะๆ 
หน่อยเลยแถมสั่งกุ้งมาให้นางด้วย

จบแล้วหนึ่งวันของแอนนี่ค่ะ

วันต่อมาอีก 4 วันเป็นวันทำงานของหน่อยเลยปล่อยให้แอนนี่เที่ยวเอง
นางมีความสามารถพิเศษคือสามารถหาที่เที่ยวที่หน่อยไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนได้เช่น

ตลาดน้ำคลองสวน - ตอนได้ยินทีแรกถามย้ำนางหลายรอบว่า เฮ้ ยู คลองสานรึเปล่า นางก็ยืนยันว่าคลองสวน เราก็เอ๊...มีด้วยเหรอว้าาา. 
ไปหาดู เออ มีจริงๆ ว่ะ นางบอกว่านางชอบที่นี่ที่มันบ้านๆ ดี ไม่มีนักท่องเที่ยวฝรั่งเลย. แต่เดินทางลำบากไปหน่อย

ยูนิคอร์น คาเฟ่ - ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคาเฟ่อะไรอย่างนี้มาเปิดแถวๆ สีลม นางถ่ายรูปมาให้ดู น่ารักมากเลยค่ะ ว่างๆ ต้องไปดูบ้างละ

นางมักจะกลับมาก่อนหกโมงเย็นแล้วหน่อยก็จะไปซื้อของกินให้นางกิน
นางชอบกินผัดไทยมาก กินทุกวันเลย แต่คนละร้านเท่านั้นเอง
อีกอย่างที่นางชอบกินอีกอย่างคือ เครื่องดื่มอะไรก็ตามที่ใส่นมข้นหวาน นางชอบมากกกกกกก โดยเฉพาะชาไทยใส่นม
นางปลื้มปริ่มมากเพราะมันใส่นมข้นหวานและสีส้มสวยสดใส

(นี่ถ้าอยู่กับอเล็กซ์ได้ตีกันตายแน่ คนนึงกินหวานแสบไส้ อีกคนไม่กินหวานเลย)

หลังจากกินข้าวเย็นกันแล้วเราก็จะเม้าท์มอยกัน

คุณคิดว่าการคุยกับเด็กผู้หญิงอายุ 20. เราคุยกันแต่เรื่องสาวๆ น่ารักๆ คิขุ. งุงิ ครุคริ กันใช่มั้ยคะ

แอดดดดดดดดดดดดด. ผิดค่ะ  (เสียงแบบเกมโชว์)

สิ่งที่เราคุยนอกจากเรื่องผู้หญิงๆ แล้ว เราคุยเรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม กันบ่อยๆ ค่ะ

ใครที่บ่นๆ กันว่า เด็กสมัยนี้นะ มันอย่างนั้น อย่างนี้ ขอให้คิดเสียใหม่นะคะ หน่อยว่ามันก็แล้วแต่คนค่ะ

พอถึงวันศุกร์เราแพลนกันว่าจะไป อัมพวากันค่ะ 

ตอนเที่ยงๆ เรานั่งรถตู้มาลงที่ตลาดแม่กลอง ก็มะงุมมะงาหรากันสองคนว่ามันต้องไปขึ้นรถสองแถวไปอัมพวายังงัยนะ

พอดีน้องที่นั่งข้างๆ หน่อยบนรถตู้ที่หน้าเหมือน ส้มส้ม ในเรื่องฮอร์โมนส์ เค้าบอกว่าให้ตามมา

เราก็เดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงค่ะ ทีแรกนึกว่าน้องส้มส้ม จะไปกับเราด้วย จึงขึ้นรถไปโดยไม่ได้ขอบคุณเลย

ถ้าน้องมาอ่านบล็อกของพี่ก็ขอขอบคุณน้องมากนะคะ

อะมาถึงตลาดน้ำแล้ว



ยังบ่ายๆ อยู่. ร้านรวงยังไม่ค่อยเปิดกันเท่าไร อยากพานางไปวัดบางกุ้ง แต่ต้องไปกับทัวร์ไหว้พระ 9 วัด ตอนนั้นเลยคิดว่า อืม เอาไว้ก่อนละกัน. เดินเที่ยวก่อนดีกว่า




นั่งกินขนมหม้อแกงชมวิวกันค่ะ




เดินสำรวจสองฝั่งคลอง







ตรงนี้เป็นคล้ายๆ พิพิธภัณฑ์ รวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้านของที่นี่ค่ะ




เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ร้านแถวนี้ไม่ค่อยเปิดกันเลย




อากาศก็ร้อน. ร้านขายของก็ยังไม่ค่อยเปิดกัน เบื่อๆ ไม่มีอะไรทำ เราเลยตัดสินใจไปถามว่า ถ้าเหมาเรือไปวัดบางกุ้งเท่าไร เค้าบอกว่า 500 ที่แพงเพราะมันไกลที่สุดค่ะ หน่อยเลยตัดสินใจเช่าเรือไปวัดบางกุ้งกัน







ท้องฟ้าสดใสมากมาย




ถึงท่าน้ำวัดบางกุ้งแล้ว แพะหน้าเซ็งโลกจัง




ไหว้พระกันก่อนค่ะ ข้างในมีเสี่ยงเซียมซีด้วย

ปล. แอนนี่เล่าให้ฟังว่าวันที่ไปแถวสีลม นางแวะไปวัดแขกด้วย นางบอกว่าที่นั่นไม่เหมือนวัดที่ศรีลังกาเลย แถมมีเซียมซีด้วย. เดี๋ยวนะ...วัดแขกแต่มีเซียมซี 







Unseen ขนาดนี้ ถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย







อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินค่ะ


พอไหว้พระ ถ่ายรูปแล้วเราก็นั่งแหมะกันตรงม้าหินอ่อนข้างโบสถ์ปรกโพธิ์นั่งเม้าท์มอยเรื่องศาสนากัน
ใกล้ๆ 5 โมงเย็นพี่คนขับเรือก็มาตาม 







ร้านขายของเริ่มเปิดกันคึกคักแล้วค่ะ









ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เราตกลงกันว่ามากินกันที่ร้านบ้านชมวิวค่ะ 




บรรยากาศชิลมากๆ




มีศาลาริมน้ำด้วย อาหารที่นี่อร่อยดีค่ะ เช่นเคย แอนนี่สั่งผัดไทย 




ทีแรกว่าจะดูหิ่งห้อยกัน แต่กลัวจะดึกไป เพราะวันเสาร์แอนนี่ต้องขึ้นรถแต่เช้า เลยกลับค่ะ




ก่อนกลับวิวสวยขนาดนี้ ต้องถ่ายรูปซะหน่อย(จริงๆ สวยกว่านี้ แต่คนถ่ายห่วย ฮ่าๆ) 











แล้วเรานั่งรถตู้ดำเนินสะดวกกลับกรุงเทพฯ กันตรงปากทางเข้าตลาดน้ำ

แอนนี่ถามว่า "ทำไมยูไม่นั่งรถนี้ตอนขามาล่ะ"
เออ..นั่นดิ ทำไมนะ 

เช้าวันต่อมาหน่อยไปส่งแอนนี่ที่เอกมัยตั้งแต่ฟ้าสาง
นั่งรอเป็นเพื่อนนางจนนางกลับค่ะ

จบแล้วสำหรับทริปแอนนี่นะคะ
คราวหน้า ยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร เพราะดันพลาดไปนครวัดไม่ได้
เอาเป็นว่าคอยติดตามแล้วกันนะคะ

สำหรับวันนี้ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค่ะ


Sunday, September 18, 2016

โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย ณ Pulley Hostel หัวหิน (Alone at Pulley Hostel Hua Hin)

 

"หัวหินเป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอยจนหอยติดหิน"

อย่าคิดลึกค่ะ  หมายถึงมันนานมากจนหอยนางรมมันมาติดหิน

เป็นเพลงแปลงที่หน่อยร้องสมัยเด็กค่ะ  จริงๆ เพลงเค้าร้องแบบนี้




เก่าดีมะ

เหตุเริ่มต้นของทริปนี้มาจาก

1. อยากเที่ยวคนเดียว เพราะไม่ได้เที่ยวคนเดียวมาพักใหญ่แล้ว
2. อยากลองพักแบบ backpacker ใน hostel จริงๆ ที่เค้าทำกันบ้าง เผื่ออนาคตอยากไปต่างประเทศแบบประหยัดๆ จะได้คุ้นชิน

แล้ว hostel คืออะไรล่ะ?

เอาตามความเข้าใจของชะนีตัวใหญ่ๆ ติงต๊องๆ ก็คือ เป็นที่พักราคาถูก พักแบบรวมๆ กันหลายๆ เตียง และมีห้องน้ำรวมค่ะ

อ้าวงั้นก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวน่ะสิ

ก็ใช่ค่ะ  แต่มันจะแย่จะเลวร้ายมากอย่างที่คิดกันรึเปล่า  วันนี้หน่อยจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สารภาพอย่างนึงว่าทีแรกเลยเนี่ยหน่อยกะว่าจะตั้งชื่อทริปนี้ว่า  อินดี้ อินเทรน อินหัวหิน (Indy, In Trend, In Hua Hin)

คือกะว่า จะนั่งรถไฟฟรีไปหัวหินแต่ไม่สำเร็จค่ะ เพราะความอดทนหน่อยมีไม่พอ ฮ่าๆ

มันช้ามากกกกก  แถมคนแน่น ร้อน นั่งไม่สบาย เลยลงแถวๆ ศาลายา นครปฐมแล้วนั่งรถแท๊กซี่กลับกรุงเทพฯ 

แต่ก็ไม่เสียเปล่านะคะ หน่อยมีรูปสวยๆ (มั้ง)  มาฝากค่ะ

 

เริ่มจากที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงค่ะ

อ้อ บอกไว้ก่อน ทริปนี้เป็นทริปขี้เกียจ หน่อยเลยตั้งเป็นโหมด auto ในการถ่ายรูปค่ะ

 


ตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ

 

เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงค่ะ

 

ไปต่อแถวรับตั๋วฟรีค่ะ อย่าลืมเอาบัตรประชาชนไปยื่นกันด้วยนะ

 

ถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆ

 

 

ขบวนนี้เป็นขบวนที่ขึ้นไปค่ะ




ที่นั่งฝั่งตรงข้าม (แต่คนข้างๆ ยังไม่มีคนจับจองนะ ฮิ้วววว)


นั่งไปซักพักก็มีน้องๆ วัยมหาลัยแก๊งค์่นึงขึ้นมา เราก็นั่งๆ ไป รู้สึกว่ามันร้อน อึดอัด เลยตัดสินใจลงที่ศาลายาค่ะ

ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากประหยัดถึงขั้นสุดแล้วกันนะคะ  ส่วนหน่อยทนไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปตั้งหลักก่อน


ตัดมาที่เสาร์ถัดไป หน่อยไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ที่คุ้นเคยแล้วไปลงที่ตลาดหัวหิน

จากตลาดให้ไปตรงคิวรถสองแถวสีเขียว อยู่แถวๆ สี่แยกที่มีธนาคารกรุงไทยน่ะค่ะ แล้วไปลงสุดสายแถวๆ เขาตะเกียบเลย

แล้วก็เปิด google map หาที่พักของเราเลยค่ะ ชื่อว่า Pulley Hostel Hua Hin 

 

จากคิวรถสองแถวปลายทางค่ะ. ฝนกำลัง่จะตกเลย

 

มาทางนี้เลย วัดเขาลั่นทม

 

ฝนเริ่มตกหนักแล้วค่ะ เลยเข้ามาในร้านอาหารร้านนึง ชื่อว่า Cafe อะไรซักอย่าง จำไม่ได้ละ ที่นี่คุณเจ้าของเป็นแฟนรักบี้ตัวยงเลยค่ะ
เพราะในร้านตกแต่งด้วยของที่ระลึกของทีมรักบี้จากทั่วโลก

 

ยืนยันความเป็นแฟนรักบี้อีกอย่าง คุณเจ้าของร้านเปิดทีวีดูรักบี้อย่างสนุกสนาน

 

ระหว่างนี้ก็สั่งอะไรมากิน เริ่มจากเครื่องดื่มก่อนเลย

 

(แอบสงสัยเหมือนกันนะ ว่าถ่ายมาทำไม แค่กินโค้กแค่นี้ - -")

 

ต่อกันด้วยอาหารที่น่าจะกินตอนเข้ามากกว่า 5 โมงเย็น นั่นก็คือ Poached Eggs 

อิ่มท้องแล้ว ฝนก็หยุดแล้ว ได้เวลาออกเดินไปที่ที่พักของเราแล้ว ลุย !!!!

เดินต่อไปตาม google map แล้วเจอที่พักของเราเลยค่ะ

ขอโทษด้วย ที่ไม่ได้ถ่ายรูปข้างหน้ามา รูปลองไป search หาในเน็ตเอาเองนะคะ

พอไปถึงคุณพี่เจ้าของที่ดูแลดีมากกกก ให้เช็คอินค่ะ ที่นี่จะมีคีย์การ์ดไว้สำหรับเข้าโฮสเทล และห้องนอนของเราค่ะ

แล้วคุณพี่ก็พาเข้าไปในห้องพักชั้น 3 ซึ่งหน่อย request ว่าขอห้องพัก female ซึ่งเป็นห้องพักหญิงล้วน เพราะว่ากลัวผู้ชายแถว นั้นเสียหายค่ะ

 

รูปภาพที่ใช้ตกแต่งตรงหน้าห้องนอนค่ะ

 

หน้าห้องที่หน่อยพักค่ะ

 

เตียงนอนเป็นแบบนี้ค่ะ. เป็นเตียง 2 ชั้น ในห้องมีทั้งหมด 6 เตียง ที่หัวเตียงมีไฟอ่านหนังสือ ชั้นวางของเล็กๆ และปลั๊กไฟค่ะ

แถมมีผ้าขนหนูนุ่มๆ กับไม้แขวนเสื้ออีก 1 อัน. ถ้าใครติดใจผ้าขนหนูซื้อกับทางคุณพี่เจ้าของได้เลยค่ะ

ในห้องนอกจากจะมีเตียงแล้ว ยังมี ล๊อคเกอร์ไว้เก็บของด้วยค่ะ แต่กุญแจต้องนำมาเองนะคะ ถ้าไม่ได้เอามาที่นี่ก็มีขายค่ะ

พอเก็บของเสร็จแล้ว หน่อยก็ลงมาห้องนั่งเล่น ที่นี่ตกแต่งได้สวยมากๆ น่านั่งจริงๆ ค่ะ

 

Wall Of Frames



โซฟาน่านั่งมากค่ะ

 

มีมุมสันทนาการด้วย เอ้า1 แจวมาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว เย้ยยยย ไม่ใช่ หมายถึง มุมพักผ่อนยามว่าง มีทั้งหนังสือให้อ่าน มีเกมกระดานอย่างบิงโก หมากฮอสและอูโน สแต็ก 


นอกจากนั้นตรงเคาท์เตอร์เช็คอินยังมีเครื่องดื่มให้สั่ง วันนี้หน่อยสั่งสตรอเบอรี่ ปั่น และที่นี่ยังมีทีวีให้ดูและ อินเตอร์เน็ตให้เล่นทุกพื้นที่ในที่พักเลยค่ะ

หน่อยนั่งเล่นซักพัก แล้วกลัวว่าดึกๆ จะหิว เลยเดินไปเซเว่น และซื้อขนมมากินนิดหน่อย 

 

ตรงนี้เป็นบริเวณครัวค่ะ สามารถใช้อุปกรณ์ได้แต่ต้องล้างเก็บให้เรียบร้อยนะ ส่วนตู้เย็นก็ซื้อของกินมาใส่ได้ค่ะ แต่ห้ามกินของคนอื่นนะ
หน่อยเกือบกินปีโป้ของใครก็ไม่รู้ในตู้เย็นแล้ว แหะๆ

กินขนมเสร็จก็นั่งเล่นซักพัก แล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมนอนค่ะ

 

ห้องน้ำหญิง อยู่ชั้น 3 ค่ะ

 

ข้างในทางขวาเป็นแบบนี้

 

ทางซ้ายสุดทางเป็นมุมแต่งตัวค่ะ มีไดร์เป่าผมและกระจก

 

ถัดจากมุมแต่งตัว อันนี้เป็นมุมอ่างล้างหน้าล้างมือค่ะ มีสบู่ล้างมือให้ด้วย

 


 ห้องอาบน้ำ ใหม่มากๆ สะอาดสะอ้านดีค่ะ มีแชมพูกับสบู่เหลวให้ เตรียมมาแค่แปรงสีฟันยาสีฟันยังได้เลยค่ะ

อาบน้ำเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเข้านอนค่ะ ก่อนนอนคุณพี่เจ้าของไลน์มาถามว่าตอนเข้าจะรับอาหารเข้าเป็นข้าวต้ม หรือ ไส้กรอกไข่ดาวดี หน่อยเลือกข้าวต้มไปค่ะ

คือนั้นถือว่านอนหลับดีค่ะ หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ที่นี่นุ่มและสะอาดมาก นอนหลับสบายมากจริงๆ ค่ะ

ทีแรกนึกว่าที่นี่จะพลุกพล่าน คนเยอะ แต่ในห้องมีแค่หน่อย กับไบค์เกอร์สาวอีกคนค่ะ ถือว่าไม่วุ่นวายดีค่ะ

ตื่นเข้ามา ลงไปทานอาหารชั้นล่าง ตรงใกล้ๆ ห้องครัวค่ะ มีชากาแฟ ให้ชงดื่ม และขนมปังปิ้งฟรี

แล้วคุณพี่ก็เอาข้าวต้มหมูมาเสิร์ฟ พร้อมคุยเรื่องเกี่ยวกับโฮสเทลค่ะ คุณพี่เจ้าของเล่าให้ฟังว่าเคยไปพักโฮสเทลแห่งหนึ่งแล้วชอบ เลยเอามาทำบ้าง
แรกๆ ก็ลองให้เพื่อนๆ มาพักก่อน จนเพิ่งเปิดให้คนนอกเข้าพักเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ

พอทานข้าวต้มเสร็จแล้ว ก็นั่งเล่นนอนเล่นแป๊บนึง แล้วก็ไปอาบน้ำ เก็บของเตรียมกลับกรุงเทพ

พอเช็คเอาท์แล้วหน่อยก็ขอนั่งเล่นในห้องนั่งเล่นแป๊บนึง (จริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ตอนนี้ติดซีรีย์ส อินเดีย เรื่องนึง ชื่อ Hasina หรือชื่อภาษาไทย คือ เล่ห์ราคะ ฉายช่อง ไบร์ท ทีวี เสาร์อาทิตย์ตอน 11 โมงเข้าค่ะ สนุกดี นางเอกสวย ลองไปดูกันนะคะ)

ได้เวลากลับหน่อยก็เดินไปขึ้นรถสองแถวสีเขียวกลับค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปสิ่งที่ได้จากทริปนี้ หน่อยได้ทดลองการไปพักที่พักรวมแบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ที่นี่ถือว่ามีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี
สะอาดและบริการดีมากค่ะ  ใครที่ผ่านไปแถว หัวหินอยากได้ที่พักในงบจำกัดและสะอาด ลองให้ Pulley Hostel Hua Hin เป็นตัวเลือกอีกที่นึงนะคะ