ขอนอกเรื่องออสเตรเลียแป๊บ เนื่องจาก ฝรั่งมาบ้าน ตอน อเล็กซ์มีผู้อ่านเยอะมากเป็นประวัติการณ์ของ เจอนี่ เจอนั่น เลย และทำให้จำนวนครั้งที่มีคนคลิกเข้ามาอ่านรวมทะลุพันแล้ว วู้วววววว ดิชั้นอยากจะกราบแทบอกคุณผู้อ่านทุกท่าน (ถ้าเป็นผู้อ่านผู้ชายโสดและหล่อดิชั้นขอกราบนานหน่อย ไม่ว่ากันนะคะ) ที่ทุกๆ ท่านให้การสนับสนุนดีๆ แบบนี้ ชะนียักษ์ซาบซึ้งจริงๆ ค่ะ
มาต่อเรื่องออสเตรเลียกันดีกว่า วันที่ 2 แล้วเกิดอะไรบ้าง
วันนี้พี่ฟ้าต้องตื่นแต่เช้าไปเช่ารถค่ะ เพราะเรา 4 คนจะเดินทางไกลไปอุทยานแห่งชาติ Blue Mountains กันค่ะ
ซึ่งมันกว้างใหญ่มาก จนพี่ฟ้าถามว่าอยากไปตรงไหนเป็นพิเศษรึเปล่า ความที่หน่อยเป็นคนเตรียมตัวมาดีมากกกก(ประชด) เลยเสิร์ชหาข้อมูล ณ ตรงนั้นเลย ปรากฎว่าเห็นคำว่า Tree Sisters อยู่ลำดับแรกเลย เลยบอกพี่ฟ้าไป พี่ฟ้าบอกว่า อ้อ มันเป็นหินสามก้อนอะนะ ดีที่คุณแม่ของพี่ฟ้ามาเสริมว่า มันมีตำนานของหินสามก้อนนี้
เรื่องมีอยู่ว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชนเผ่าอยู่ชนเผ่านึงในออสเตรเลีย มีกฎเหล็กว่าหญิงสาวในเผ่าต้องแต่งงานกับคนในเผ่าเดียวกันเท่านั้น แต่มีสามสาวพี่น้องตระกูลหนึ่งฝ่าฝืนกฎ จึงโดนลงโทษโดยการถูกสาปให้เป็นหินสามก้อนเรียงกันดังที่เห็นในปัจจุบัน -- ขอบคุณคุณแม่มากค่ะ _/|\_
พอพี่ฟ้าไปเช่ารถมาแล้ว เรา 4 คนก็มุ่งหน้าสู่ Katoomba ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของ Blue Mountain ค่ะ วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่หน่อยมาถึงออส ยังปรับเวลาไม่ได้ ระหว่างทางเลยหลับตลอดเลย - -" พี่ฟ้ากับคุณแม่ชวนให้ดูต้นไม้สวยๆ ก็อดดู -- อายจัง
พอถึงที่หมาย อากาศแจ่มใสมากค่ะ เราเลยแวะถ่ายรูปกัน
เห็นแล้ว Tree Sister
วิวรอบๆ ค่ะ คิดว่านี่คงเป็นที่มาของคำว่า Blue Mountains (แอบแต่งสีในกล้องนิดๆ ค่ะ)
เราถ่ายรูปกันจนอิ่ม แต่ท้องเราหิว เลยกลับไปตรงจุดที่เราจอดรถเพื่อที่จะกินข้าวกลางวันที่คุณแม่เตรียมมาให้ค่ะ
ป้ายที่นี่อย่างเก๋
อากาศดีมาก วันนี้วันจันทร์ ไม่ค่อยมีคน ดี๊ดี
จุดนี้ ถ้าตะโกนไปจะมีเสียงสะท้อน เลยตะโกนไปว่า "เหินฟ้าาาาา" -- เก่ามากกก ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ควรได้รับคำแนะนำ
เริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี
ใบเมเปิ้ล ที่นี่มีเยอะมาก แทบจะทุกมุมถนนของ sydney ใครเคยไปดูใบเมเปิ้ลที่ภูกระดึงแล้วรู้สึกขัดใจ ที่ไม่สามารถเก็บกลับบ้านได้ จะไปแคนาดาก็ไกลไป มา Sydney เลย หล่นเกลื่อนกลาดเลยค่ะคู๊ณณณณ
พอเราจัดการกับอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ทุกคนเสนอว่า หน่อยเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกน่าจะไปนั่งพวกกระเช้าชมวิวที่นี่นะ ทีแรกหน่อยก็ไม่อยากไปนั่งหรอกค่ะ เพราะหน่อยกลัวความสูงมาก >.<" แต่คิดไปคิดมา ออสเตรเลียก็ไม่ใช่ที่ที่เราจะมากันได้บ่อยๆ เลยตัดสินใจว่า เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ เสียตังค์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลขนาดนี้ละ ลุย!!!!
ไปถึงที่ขายตั๋ว ก็ซื้อตั๋วขึ้นยานพาหนะ 3 แบบ 3 เส้นทาง สนนราคาอยู่ที่ 40 เหรียญ คราวนี้หน่อยต้องขึ้นคนเดียว เพราะคนอืนเคยมากันหลายครั้งแล้ว จะให้มาเสียเงินอีกก็จะกระไรอยู่ พอจ่ายเงินแล้วเค้าก็มี Wrist band ให้ใส่แบบนี้เป็น access card ค่ะ
ตอนเค้าบอกว่า " Give me your right hand, please" ชะนียื่นมือซ้ายเฉย คนขายตั๋วก็ทำหน้างงๆ ดีว่าพี่ฟ้าทัก อายเลยเรา ไม่แน่ใจว่าหน่อยอ่อนภาษาอังกฤษหรือไม่รู้ซ้ายขวากันแน่
ซื้อตั๋วแล้วก็แยกย้ายกับกลุ่มพี่ฟ้าและครอบครัวซึ่งไปขับรถเล่นแถวๆ นั้น ส่วนหน่อยก็มาเข้าแถวรอ Cable Car แบบนี้ค่ะ
เข้าไปข้างในก็เป็นแบบนี้
พอถึงปลายทาง ก็มีเส้นทางสำรวจธรรมชาติค่ะ
มีป้ายอธิบายตลอดทาง แถมมีการ์ตูนน่ารักๆ ด้วย มากันได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ
อันนี้เป็นต้นไม้ตามคำอธิบายข้างบนค่ะ แปลกันเอาเองนะ
จริงๆ มีคำอธิบายเยอะมากค่ะ แต่ยกตัวอย่างแค่นี้ก่อน พอหมดจากธรรมชาติแล้วก็มาถึงเรื่องประวัติศาตร์กันบ้าง ตรงนี้เป็นเหมืองถ่านหินเก่าค่ะ ตอนนี้ไม่มีการขุดถ่านหินละ
แสดงอุปกรณ์ในการทำเหมืองถ่านหินค่ะ
รูปปั้นแสดงวิถีชีวิตของชาวเหมืองค่ะ
วิว Three Sisters จากตรงเหมืองค่ะ
รถรางที่ขนถ่านหินขึ้นไปข้างบนในสมัยก่อนค่ะ เค้าเอามาจัดแสดงให้ดูค่ะ
ส่วนอันนี้คือรถรางปัจจุบันค่ะ ใช้สำหรับการท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าดูปลอดภัยกว่ากันเยอะ
จะได้นั่งกลับขึ้นไปที่เดิมล่ะนะ
ตอนนั่งทีแรกก็ไม่คิดอะไร คิดว่าคงแค่ชันหน่อยๆ แค่นั้น ที่ไหนได้
รางมันชันมากค่ะ ชันจนลำตัวแทบจะขนานกับพื้นโลก แถมมีช่วงนึงรางนั้นขุดเข้าไปในภูเขา มืดๆ ด้วย adventure จริงๆ แนะนำให้ลองนั่งกันค่ะ -- ไม่อยากจะคิดว่าสมัยก่อนเค้านั่งกันได้ไง ไม่มีกระจกปิดข้างบนแบบนี้ บรื๊ออออ
พอถึงข้างบนก็นัง Sky Way ต่อค่ะ
บรรยากาศข้างใน
พื้นส่วนหนึ่งเป็นกระจกด้วย
ถึงอีกฝั่งแว้ว วิวสวยมาก
ป่าไม้ที่นี่ยังดูสมบูรณ์ดี อยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้บ้าง
ต้นอะไรไม่รู้น่ารักดี แต่ถ่ายหน้าเบลอหลังชัด - -" ถ่ายตามตำราไหนเนี่ย
รูป Sky Way จากข้างล่างค่ะ
กลับแล้ว เห็นเงา Sky Way มั้ยคะ
พอจบแล้วก็โทรให้พี่ฟ้ากลับมารับค่ะ แล้วเราก็ขับรถกลับกันไปซื้อของมาทำอาหารเย็นวันนั้นซึ่งเป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิดของพี่ชายพี่ฟ้าด้วย เอ้า ชนนนนนนน
ปล. เนื้อแกะอร่อยมาก ได้ข่าวว่าเนื้อวัวก็อร่อยมากเช่นกัน พอดีหน่อยไม่กินเนื้อวัวค่ะ
ปล 2. ไวน์ที่นี่ถูกมาก แต่เสียดายตับไม่ค่อยดี อดกินตลอดชีวิตเลยค่ะ T.T
วันนี้จบแล้ว คราวหน้ามาดูความโก๊ะกังของชะนีกันค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ รักนะจุ๊บๆ