Sunday, September 18, 2016

โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย ณ Pulley Hostel หัวหิน (Alone at Pulley Hostel Hua Hin)

 

"หัวหินเป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอยจนหอยติดหิน"

อย่าคิดลึกค่ะ  หมายถึงมันนานมากจนหอยนางรมมันมาติดหิน

เป็นเพลงแปลงที่หน่อยร้องสมัยเด็กค่ะ  จริงๆ เพลงเค้าร้องแบบนี้




เก่าดีมะ

เหตุเริ่มต้นของทริปนี้มาจาก

1. อยากเที่ยวคนเดียว เพราะไม่ได้เที่ยวคนเดียวมาพักใหญ่แล้ว
2. อยากลองพักแบบ backpacker ใน hostel จริงๆ ที่เค้าทำกันบ้าง เผื่ออนาคตอยากไปต่างประเทศแบบประหยัดๆ จะได้คุ้นชิน

แล้ว hostel คืออะไรล่ะ?

เอาตามความเข้าใจของชะนีตัวใหญ่ๆ ติงต๊องๆ ก็คือ เป็นที่พักราคาถูก พักแบบรวมๆ กันหลายๆ เตียง และมีห้องน้ำรวมค่ะ

อ้าวงั้นก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวน่ะสิ

ก็ใช่ค่ะ  แต่มันจะแย่จะเลวร้ายมากอย่างที่คิดกันรึเปล่า  วันนี้หน่อยจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สารภาพอย่างนึงว่าทีแรกเลยเนี่ยหน่อยกะว่าจะตั้งชื่อทริปนี้ว่า  อินดี้ อินเทรน อินหัวหิน (Indy, In Trend, In Hua Hin)

คือกะว่า จะนั่งรถไฟฟรีไปหัวหินแต่ไม่สำเร็จค่ะ เพราะความอดทนหน่อยมีไม่พอ ฮ่าๆ

มันช้ามากกกกก  แถมคนแน่น ร้อน นั่งไม่สบาย เลยลงแถวๆ ศาลายา นครปฐมแล้วนั่งรถแท๊กซี่กลับกรุงเทพฯ 

แต่ก็ไม่เสียเปล่านะคะ หน่อยมีรูปสวยๆ (มั้ง)  มาฝากค่ะ

 

เริ่มจากที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงค่ะ

อ้อ บอกไว้ก่อน ทริปนี้เป็นทริปขี้เกียจ หน่อยเลยตั้งเป็นโหมด auto ในการถ่ายรูปค่ะ

 


ตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ

 

เดินมาเรื่อยๆ ก็ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงค่ะ

 

ไปต่อแถวรับตั๋วฟรีค่ะ อย่าลืมเอาบัตรประชาชนไปยื่นกันด้วยนะ

 

ถ่ายรูปเล่นบริเวณรอบๆ

 

 

ขบวนนี้เป็นขบวนที่ขึ้นไปค่ะ




ที่นั่งฝั่งตรงข้าม (แต่คนข้างๆ ยังไม่มีคนจับจองนะ ฮิ้วววว)


นั่งไปซักพักก็มีน้องๆ วัยมหาลัยแก๊งค์่นึงขึ้นมา เราก็นั่งๆ ไป รู้สึกว่ามันร้อน อึดอัด เลยตัดสินใจลงที่ศาลายาค่ะ

ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากประหยัดถึงขั้นสุดแล้วกันนะคะ  ส่วนหน่อยทนไม่ไหวแล้ว ขอกลับไปตั้งหลักก่อน


ตัดมาที่เสาร์ถัดไป หน่อยไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ที่คุ้นเคยแล้วไปลงที่ตลาดหัวหิน

จากตลาดให้ไปตรงคิวรถสองแถวสีเขียว อยู่แถวๆ สี่แยกที่มีธนาคารกรุงไทยน่ะค่ะ แล้วไปลงสุดสายแถวๆ เขาตะเกียบเลย

แล้วก็เปิด google map หาที่พักของเราเลยค่ะ ชื่อว่า Pulley Hostel Hua Hin 

 

จากคิวรถสองแถวปลายทางค่ะ. ฝนกำลัง่จะตกเลย

 

มาทางนี้เลย วัดเขาลั่นทม

 

ฝนเริ่มตกหนักแล้วค่ะ เลยเข้ามาในร้านอาหารร้านนึง ชื่อว่า Cafe อะไรซักอย่าง จำไม่ได้ละ ที่นี่คุณเจ้าของเป็นแฟนรักบี้ตัวยงเลยค่ะ
เพราะในร้านตกแต่งด้วยของที่ระลึกของทีมรักบี้จากทั่วโลก

 

ยืนยันความเป็นแฟนรักบี้อีกอย่าง คุณเจ้าของร้านเปิดทีวีดูรักบี้อย่างสนุกสนาน

 

ระหว่างนี้ก็สั่งอะไรมากิน เริ่มจากเครื่องดื่มก่อนเลย

 

(แอบสงสัยเหมือนกันนะ ว่าถ่ายมาทำไม แค่กินโค้กแค่นี้ - -")

 

ต่อกันด้วยอาหารที่น่าจะกินตอนเข้ามากกว่า 5 โมงเย็น นั่นก็คือ Poached Eggs 

อิ่มท้องแล้ว ฝนก็หยุดแล้ว ได้เวลาออกเดินไปที่ที่พักของเราแล้ว ลุย !!!!

เดินต่อไปตาม google map แล้วเจอที่พักของเราเลยค่ะ

ขอโทษด้วย ที่ไม่ได้ถ่ายรูปข้างหน้ามา รูปลองไป search หาในเน็ตเอาเองนะคะ

พอไปถึงคุณพี่เจ้าของที่ดูแลดีมากกกก ให้เช็คอินค่ะ ที่นี่จะมีคีย์การ์ดไว้สำหรับเข้าโฮสเทล และห้องนอนของเราค่ะ

แล้วคุณพี่ก็พาเข้าไปในห้องพักชั้น 3 ซึ่งหน่อย request ว่าขอห้องพัก female ซึ่งเป็นห้องพักหญิงล้วน เพราะว่ากลัวผู้ชายแถว นั้นเสียหายค่ะ

 

รูปภาพที่ใช้ตกแต่งตรงหน้าห้องนอนค่ะ

 

หน้าห้องที่หน่อยพักค่ะ

 

เตียงนอนเป็นแบบนี้ค่ะ. เป็นเตียง 2 ชั้น ในห้องมีทั้งหมด 6 เตียง ที่หัวเตียงมีไฟอ่านหนังสือ ชั้นวางของเล็กๆ และปลั๊กไฟค่ะ

แถมมีผ้าขนหนูนุ่มๆ กับไม้แขวนเสื้ออีก 1 อัน. ถ้าใครติดใจผ้าขนหนูซื้อกับทางคุณพี่เจ้าของได้เลยค่ะ

ในห้องนอกจากจะมีเตียงแล้ว ยังมี ล๊อคเกอร์ไว้เก็บของด้วยค่ะ แต่กุญแจต้องนำมาเองนะคะ ถ้าไม่ได้เอามาที่นี่ก็มีขายค่ะ

พอเก็บของเสร็จแล้ว หน่อยก็ลงมาห้องนั่งเล่น ที่นี่ตกแต่งได้สวยมากๆ น่านั่งจริงๆ ค่ะ

 

Wall Of Frames



โซฟาน่านั่งมากค่ะ

 

มีมุมสันทนาการด้วย เอ้า1 แจวมาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว เย้ยยยย ไม่ใช่ หมายถึง มุมพักผ่อนยามว่าง มีทั้งหนังสือให้อ่าน มีเกมกระดานอย่างบิงโก หมากฮอสและอูโน สแต็ก 


นอกจากนั้นตรงเคาท์เตอร์เช็คอินยังมีเครื่องดื่มให้สั่ง วันนี้หน่อยสั่งสตรอเบอรี่ ปั่น และที่นี่ยังมีทีวีให้ดูและ อินเตอร์เน็ตให้เล่นทุกพื้นที่ในที่พักเลยค่ะ

หน่อยนั่งเล่นซักพัก แล้วกลัวว่าดึกๆ จะหิว เลยเดินไปเซเว่น และซื้อขนมมากินนิดหน่อย 

 

ตรงนี้เป็นบริเวณครัวค่ะ สามารถใช้อุปกรณ์ได้แต่ต้องล้างเก็บให้เรียบร้อยนะ ส่วนตู้เย็นก็ซื้อของกินมาใส่ได้ค่ะ แต่ห้ามกินของคนอื่นนะ
หน่อยเกือบกินปีโป้ของใครก็ไม่รู้ในตู้เย็นแล้ว แหะๆ

กินขนมเสร็จก็นั่งเล่นซักพัก แล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำเตรียมนอนค่ะ

 

ห้องน้ำหญิง อยู่ชั้น 3 ค่ะ

 

ข้างในทางขวาเป็นแบบนี้

 

ทางซ้ายสุดทางเป็นมุมแต่งตัวค่ะ มีไดร์เป่าผมและกระจก

 

ถัดจากมุมแต่งตัว อันนี้เป็นมุมอ่างล้างหน้าล้างมือค่ะ มีสบู่ล้างมือให้ด้วย

 


 ห้องอาบน้ำ ใหม่มากๆ สะอาดสะอ้านดีค่ะ มีแชมพูกับสบู่เหลวให้ เตรียมมาแค่แปรงสีฟันยาสีฟันยังได้เลยค่ะ

อาบน้ำเสร็จแล้วก็เตรียมตัวเข้านอนค่ะ ก่อนนอนคุณพี่เจ้าของไลน์มาถามว่าตอนเข้าจะรับอาหารเข้าเป็นข้าวต้ม หรือ ไส้กรอกไข่ดาวดี หน่อยเลือกข้าวต้มไปค่ะ

คือนั้นถือว่านอนหลับดีค่ะ หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ที่นี่นุ่มและสะอาดมาก นอนหลับสบายมากจริงๆ ค่ะ

ทีแรกนึกว่าที่นี่จะพลุกพล่าน คนเยอะ แต่ในห้องมีแค่หน่อย กับไบค์เกอร์สาวอีกคนค่ะ ถือว่าไม่วุ่นวายดีค่ะ

ตื่นเข้ามา ลงไปทานอาหารชั้นล่าง ตรงใกล้ๆ ห้องครัวค่ะ มีชากาแฟ ให้ชงดื่ม และขนมปังปิ้งฟรี

แล้วคุณพี่ก็เอาข้าวต้มหมูมาเสิร์ฟ พร้อมคุยเรื่องเกี่ยวกับโฮสเทลค่ะ คุณพี่เจ้าของเล่าให้ฟังว่าเคยไปพักโฮสเทลแห่งหนึ่งแล้วชอบ เลยเอามาทำบ้าง
แรกๆ ก็ลองให้เพื่อนๆ มาพักก่อน จนเพิ่งเปิดให้คนนอกเข้าพักเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ

พอทานข้าวต้มเสร็จแล้ว ก็นั่งเล่นนอนเล่นแป๊บนึง แล้วก็ไปอาบน้ำ เก็บของเตรียมกลับกรุงเทพ

พอเช็คเอาท์แล้วหน่อยก็ขอนั่งเล่นในห้องนั่งเล่นแป๊บนึง (จริงๆ ไม่ใช่อะไรหรอก ตอนนี้ติดซีรีย์ส อินเดีย เรื่องนึง ชื่อ Hasina หรือชื่อภาษาไทย คือ เล่ห์ราคะ ฉายช่อง ไบร์ท ทีวี เสาร์อาทิตย์ตอน 11 โมงเข้าค่ะ สนุกดี นางเอกสวย ลองไปดูกันนะคะ)

ได้เวลากลับหน่อยก็เดินไปขึ้นรถสองแถวสีเขียวกลับค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปสิ่งที่ได้จากทริปนี้ หน่อยได้ทดลองการไปพักที่พักรวมแบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ที่นี่ถือว่ามีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี
สะอาดและบริการดีมากค่ะ  ใครที่ผ่านไปแถว หัวหินอยากได้ที่พักในงบจำกัดและสะอาด ลองให้ Pulley Hostel Hua Hin เป็นตัวเลือกอีกที่นึงนะคะ