ทีแรกว่าจะเขียน 2 ภาษา เพื่อให้คุณเจ้าของเรื่องอ่านได้ แต่เกรงว่าปีหน้าก็คงไม่เสร็จ เลยขอเขียนภาษาเดียวนี่ล่ะ
สำหรับ ฝรั่งมาบ้านตอนนี้เป็นสาวน้อยน่ารักจากรัฐOhio เมืองลุงแซม ชื่อว่า เรเชล (จริงๆ ออกเสียงว่า เรชเชล นะจ๊ะเด็กๆ) จากการพูดคุยกันใน couchsurfing เราตกลงกันว่า จะเจอกันที่ bts bearing ตอนประมาณ สี่ทุ่ม แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้เราเจอกันช้าไปเกือบๆ ชั่วโมง นางมีสีหน้าอิดโรยเล็กน้อย แต่พอดิชั้นโบกไม้โบกมือเพื่อเป็นสัญญาณว่า ชั้นมารับเธอนะ นางก็พอจะยิ้มออกได้ สอบถามได้ความว่านางนั่งรถตู้มาจากกัมพูชา กว่าจะข้ามเขตมาไทย เสียเวลาไปหลายชั่วโมง เลยทำให้มาช้า
พอเรานั่งแท๊กซี่จากรถไฟฟ้ามาที่คอนโด ดิชั้นซึ่งยังไม่ได้กินข้าวเย็นเห็นรถขายขนมจีนมาขายหน้าคอนโดเลยชวนเรเชลซื้อไปกินบนห้อง แนะนำนางว่ากินน้ำยากะทิเถอะเพราะมันไม่เผ็ดมาก ส่วนดิชั้นต้องน้ำยาป่าเท่านั้นค่ะ พอถึงห้องเท่านั้นล่ะ นางอุทานว่า "โห วอลเปเปอร์สวยจัง ชั้นชอบมากเลยนะ" ว่าแล้วนางก็เขาไปใกล้ๆ แล้วลูบคลำมันอย่างจริงจัง แหม คนเลือกลายนี้มันรสนิยมดีจริงๆ (หลงตัวเองจังวุ้ย)
หลังจากนางวางข้าวของและล้างมือแล้ว เราก็จัดการกับขนมจีนที่ซื้อมากันอย่างเอร็ดอร่อย นางกินเกลี้ยงเลย ดีใจ๊ดีใจ ระหว่างทานอาหารนางถามว่า "ยูเรียนภาษาอังกฤษมาจากไหน" แล้วเราก็คุยกันยาวเกี่ยวกับเรื่องภาษาอังกฤษและสำเนียงต่างๆ จากนั้นเราก็จัดการธุระของตัวเองและแยกย้ายกันเข้านอน
หมายเหตุ 1: ทุกครั้งที่นางจะเข้าห้องน้ำนางจะถามก่อนว่า หน่อยจะเข้าก่อนมั้ย นางมีมารยาทและความเกรงใจดีเลิศ เอาคะแนนไปเลย 10 เต็ม
เช้าวันต่อมา หน่อยตื่นมาพบกับนางที่นั่งบนโซฟา พร้อมหมอน ผ้าห่ม ที่พับเป็นระเบียบเรียบร้อย (เยี่ยม! เอาไปอีก 10 คะแนน) นางบอกว่าวันนี้นางจะไปวัดพระแก้วแล้วเธอล่ะจะไปไหน หน่อยเลยบอกว่า ชั้นไม่มีแผนหรอกเดี๋ยวไปกับยูก็ได้ (จริงๆ ไม่ใช่อะไร กลัวเค้าโดนหลอก) เราเลยเตรียมตัวมุ่งหน้าไปรถไฟฟ้าโดยการเดิน
หน่อย: วันนี้อากาศร้อน ยูจะเดินหรือจะนั่งมอไซค์หรือแท๊กซี่ก็ได้นะ
เรเชล : โอย ถ้าไอกลัวร้อน ไอจะมาเมืองไทยทำไม
เอาไปอีก 10 คะแนนโลด
พอถึงวัดพระแก้ว นางก็ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
หลังจากชมความงดงามของวัดพระแก้วแล้ว เราเดินทางต่อไปยังวัดโพธิ์
พอนางเห็นพระพุทธไสยาส เท่านั้นล่ะ นางก็อุทานว่า "oh-my-bhuddha"
นางบอกว่า กล้วยไม้สวยดี
หลังจากหลงในวัดโพธิ์แล้ว นางบอกว่าอยากไปเยาวราชเพราะนางชอบกิน street food เวลาขณะนั้นประมาณ 5 โมงเย็น
หน่อยบอกว่ามันเร็วไป ต้องไปตอนมืดๆ หน่อย ก็เลยเสนอว่าไปท่ามหาราชก่อนที่จะไปเยาวราช
เราพยายามหาร้านริมแม่น้ำซักพักแล้ว ก็มาจบที่ร้านเสวยค่ะ
ร้านนี้มีทั้งอาหารและของหวานแบบฟิวชัน สิ่งที่เราสั่งมาคือ
ทับทิมกรอบกับพานาคอตต้า อร่อยใช้ได้
บัวลอยกับไอติมแถมข้าวตังเป็นท้อปปิ้ง อร่อยมากค่ะ แนะนำอันนี้เลย
อันนี้อัญชันตะไคร้ของหน่อยเอง ส่วนของเรเชลเป็นกาแฟโบราณไม่ได้ถ่ายมา
มีพลังขึ้นนิดนึงละ ไปถ่ายรูปเล่นแถวๆ นี้ก่อน
ฟ้าใกล้มืดเราเลยตัดสินใจว่าจะเริ่มเดินไป เยาวราชกัน
ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ เราจะ"เดิน" จากท่ามหาราชไปเยาวราช
แต่ระหว่างที่เรากำลังจะออกจากท่ามหาราชนั้น เรเชลดันเหลือบไปเห็นแผนที่เกาะรัตนโกสินทร์ และในนั้นมีรูปเสาชิงช้าด้วย
นางบอกว่าอยากไปเสาชิงช้า ได้ค่ะ จัดให้ เปิด navigator มุ่งหน้าสู่วัดสุทัศน์กันเลย
แยกตรงศาลหลักเมือง มันเบลอๆ หน่อยนะคะ (เบลอว่ารักแถบอะ)
เดินคุยกันไปกันมา แป๊บเดียวก็ถึงแล้วจ้า
พอเรเชลเห็นเสาชิงช้าของจริง นางทำหน้าผิดหวังนิดๆ "อ้าว เค้าไม่ได้เอาไว้เล่นชิงช้าจริงๆ เหรอ"
ต้องอธิบายสักพักว่า มันเป็นพิธีโบราณทางพราหมณ์นะยู เดี๋ยวนี้เค้าไม่มีพิธีนี้แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ มาเที่ยวเสาชิงช้าวันนี้แถมฟรี ไฟประดับ 39 ล้านบาท!!!
เรเชลปลื้มปริ่มกับไฟมาก นางบอกว่าสวยดีนะ ยูว่ามั้ย ชะนีเอเชียได้แต่กัดฟันแล้วตอบว่า "ใช่"
ชื่นชมกับไฟแล้ว เราทั้ง 2 เดินไปเยาวราชกันจริงๆ ซะที
หมายเหตุ 2: เรเชลนางเดินเก่งมาก ไม่บ่นเมื่อยบ่นหิวอะไรเลย เจ๊ชอบบบบ เอาไปอีก 10 คะแนน
ระหว่างทาง ผ่านสวนรมย์มณีนาถ เราแวะเข้าไปเดินเล่น แป๊บนึง
เรเชล: สวนนี้น่ารักดีนะ
หน่อย: ช่าย ไอชอบเหมือนกัน แต่สวนนี้เคยเป็นคุกมาก่อนนะ
เรเชล: เหรอ ดีจัง สร้างสวนสาธารณะก็ดีกว่าสร้างคุกแหละเนอะ
เราหาทางออกจากสวนอยู่พักนึง เรเชลบอกว่าที่นี่มันเคยเป็นคุกเราเลยหาทางออกลำบาก (ว่าไปนั่น)
เราเดินอีกพักใหญ่ จนมาถึงเยาวราชแล้วเย้ๆ
เดินกันเลือกร้านกันนาน เพราะมีแต่อาหารทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่เรเชลไม่ชอบ
จนสุดท้ายเรามาจบที่ร้านต้มเลือดหมู เราสั่งเกาเหลาคนละชามพร้อมข้าวสวย
เรเชล: (ตักก้อนเลือดหมูขึ้นมา) นี่อะไรอะ
หน่อย: เลือดไง
เรเชล: เลือด?
หน่อย: ใช่เลือด ลอ ลิง สระเอือ ดอเด็ก เลือด
เรเชล: ประหลาดมากอะ ขอชิมก่อนนะ
นางค่อยๆ ตัดก้อนเลือดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ปาก ทำหน้าเหยเกเล็กๆ
เรเชล: มันแปลกๆ อะ
หน่อย: ถ้ายูไม่ชอบ ตักมาให้ไอก็ได้ ไอชอบกิน เพราะไอเป็น แวมไพร์
สงสัยอีแวมไพร์ตัวนี้ไม่ได้ดูดเลือดอย่างเดียวล่ะมั้ง บวมเชียว
หมายเหตุ 3: เรเชลชอบกินเบียร์มาก มื้อนี้นางซื้อเบียร์จากเซเว่นมากินด้วย หน่อยก็ฝากนางซื้อโค้ก เพราะต้องเฝ้าโต๊ะ พอนางกลับมา นางบอกว่า "ไอเห็นกระป๋องมันเล็กกว่าปกติ ไอเลยซื้อมา 2 " จ๊ากกก นี่มันไซส์ปกติของโค้กกระป๋องเมืองไทยน้าาาา เรเชล ไอตัวใหญ่ก็จริง แต่ไอกินโค้กกระป๋องเดียวก็อืดแล้วนะ
พอเราจัดการอาหาร(และเบียร์) เรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งแท๊กซี่กลับบ้าน
เมื่อถึงคอนโด เราแวะเซเว่นเพื่อตุนของไว้กินตอนเช้า นางมุ่งตรงไปตรงชั้นวางเลย์
หน่อย: เรเชล หาอะไรเหรอ
เรเชล: หารสน้ำตกหม้อไฟ (Namtok Hotpot Flavored) เนี่ยมันอร่อยมากเลยนะ
เราสองคนช่วยกันหาอยู่นานก็ไม่เจอ นางทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
หมายเหตุ 3: เรเชลกลับไปจะ 2 อาทิตย์ละ หน่อยก็ยังหารสนี้ไม่เจอ ใครพบเจอที่ไหนบอกพิกัดกันบ้างนะคะ
หมายเหตุ 4: บริษัท เป๊บซี่-โค คะ กรุณาผลิตรสนี้เพิ่มด้วยค่ะ อิชั้นอยากลองจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ส่งไปเปิดตลาดที่เมกา รัฐโอไฮโอ ด้วยค่ะ เรเชลไปบรรยายสรรพคุณให้เพื่อนนางที่โน่นจนอยากกินกันไปหมดแล้วค่ะ
วันต่อมาเป็นวันจันทร์ซึ่งหน่อยทำงาน หน่อยเลยทิ้งกุญแจห้องให้เรเชล พร้อมโทรศัพท์สำรอง
พอใกล้เลิกงานเลยส่งข้อความไปถามว่าจะกินข้าวกันมั้ย
แต่นางโทรกลับมาว่าอยู่พารากอนกับเพื่อนของนาง
หน่อยเลยไปเจอกับทั้งคู่ แล้วเพื่อนของนางก็อาสาขับรถมาส่งที่คอนโด ซึ่งนางเห็นลูกชิ้นทอดที่หน้าคอนโดนางก็ตื่นเต้นมาก ลองซื้อมาทุกแบบเลย เราเลยเสนอว่าไปกินที่สระว่ายน้ำของคอนโดกัน นางแฮปปี้มากนั่งกินไปเมาท์ไป ดื่มเบียร์ไป
หมายเหตุ 4: นางชอบเบียร์ช้าง และนางต้องซื้อขวดใหญ่ เพราะมันถูกกว่า
หมายเหตุ 5: ชั้นอยากพานางไปดวลเบียร์กับน้องชายคนเล็กของดิชั้นจัง สูสีกันมาก
นางบอกว่านางชอบ ไส้กรอกไก่ที่สุด รองลงมาคือไส้กรอกหมูค้อกเทลสีแดงๆ
พอไส้กรอกหมด เบียร์หมด นางถามว่า "ยูเล่นไพ่เป็นปะ"
เรเชล ยูไม่รู้ซะแล้ว ว่ายูพูดอยู่กับใคร (นั่นสิ ใครวะ) ไอนี่ลูกหลานเกาจิ้งเลยนะ
แล้วเราก็ขึ้นห้อง พร้อมเบียร์อีกขวด ไปเล่นไพ่สปีดกัน
ใครชนะเหรอคะ?
ถามมาได้ ก็เรเชลน่ะสิ - -" (โถ่ ไหนว่าลูกหลานเกาจิ้งวะ)
ก่อนนอนเรเชลบอกว่า พรุ่งนี้ตอนเย็นๆ นางจะขึ้นเครื่องไปศรีลังกาแล้ว อยากให้ยูปลุกไอเพื่อบอกลาหน่อยนะ
เราก็ ได้สิ แล้วต่างคนต่างก็เข้านอน
ตื่นเช้ามา เรเชลดูนอนหลับสนิทมาก หน่อยเลยขอผิดสัญญาไม่กล้าปลุก แอบเสียดายเหมือนกัน
นานๆ จะเจอคนที่น่ารัก และเข้าอกเข้าใจกันขนาดนี้
สุดท้ายเราก็บอกลากันผ่าน facebook messenger แทน
วันนั้นกลับห้องมาแอบเหงาเล็กๆ แต่ก็รู้สึกยินดี ที่เราได้รู้จักกัน
หลายๆ คนอาจจะสงสัยนะคะ ว่าเราให้คนแปลกหน้าเข้ามาพักในบ้านเราฟรีๆ แบบนี้เราได้อะไร
สำหรับหน่อย การที่ได้ต้อนรับเรเชลครั้งนี้หน่อยได้อะไรหลายๆ อย่างนะ
เรเชลทำให้หน่อยมองเห็นความงามของสิ่งรอบๆ ตัว ที่หน่อยมักจะมองข้ามเสมอๆ
เรเชลสะท้อนภาพให้หน่อยเห็นว่า การอาศัยอยู่กับผู้อื่นให้คนอื่นรักต้องทำอย่างไร
เรเชลแสดงการคิดที่เป็นระบบและจัดการสิ่งต่างๆเป็นระเบียบให้หน่อยเห็นเสมอๆ
เรเชลมักจะมีความสุขง่ายๆ กับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว ทำให้หน่อยกลับไปมองตัวเองว่าบางทีเราก็ใช้ชีวิตยากไปนะ
เชื่อว่าเราคงจะได้พบกันอีก (ถ้าเรเชลเค้าอยากเจอหน่อยนะ ฮ่าๆ)
จบแล้วกับการต้อนรับฝรั่งวันนี้
ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไร คอยติดตามค่ะ
No comments:
Post a Comment