Friday, April 1, 2016

วันขี้เกียจๆ ที่ The Lazy River House



สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านนะคะ

หายหน้าหายตากันไปนาน คิดถึงหน่อยกันมั้ย 
(เอ๊ะ ทำไมเงียบๆ บางคนก็ส่ายหน้า บางคนก็คว่ำปาก บางคนก็โห่)

ไม่คิดถึงไม่เป็นไร เข้ามาอ่านหน่อยก็ดีใจแล้วค่ะ

วันนี้หน่อยจะมารีวิวบ้านพักที่น่ารักแห่งหนึ่งในใกล้ๆ กรุงเทพฯ นะคะ (จะมาแห่งหนึ่งทำไม ชื่อ blog ก็บอกแล้วว่า The Lazy River House)

เนื่องจากเพื่อน(และพี่สาว) ที่น่ารักของเรากลับมาเยี่ยมเมืองไทย เราจึงจัดทริปเล็กๆ ค้างคืน 1 คืน และหาสถานที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพื่อที่จะใช้เวลาร่วมกันในโอกาสนี้

และ The Lazy River House คือที่พักของเราค่ะ

หลังจากที่เราได้จองบ้านไปแล้ว พี่ชาเจ้าของบ้านได้ส่งอีเมล์มา ความยาวประมาณ 3 หน้ากระดาษ A4 เนื้อหาใจความในอีเมล์นั้นบอกถึงข้อตกลงและข้อแนะนำในการเข้ามาพักที่นี่ ตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้าน วิธีการเดินทาง รวมไปถึงร้านอาหารอร่อยรอบๆ บ้านพัก 

พอถึงวันเดินทาง เราไปถึงก่อนเวลาเช็คอินเล็กน้อย ซึ่งตัวบ้านพักยังทำความสะอาดไม่เรียบร้อย พี่ชาแนะนำให้เราไปนั่งเล่นที่ศาลาริมน้ำก่อน 




บรรยากาศที่ศาลาริมน้ำดีมากค่ะ ลมโกรกเย็นสบาย พวกเรานอนเล่นกันตรงนี้ (คนอื่นนอนเล่นเฉยๆ ของหน่อยน่าจะเรียกว่านอนผึ่งพุงมากกว่า) สักพักพี่ชาก็เดินมาบอกว่า "ตามสบายนะครับ" นี่ก็สบายมากแล้วค่ะ

ไม่นานบ้าน The Lazy River House ก็พร้อมต้อนรับเราค่ะ 


ตรงนี้ทางขึ้นบ้าน


มีเจ้าถิ่นมาต้อนรับเราด้วย นางน่ารักมาก ไม่เห่า ไม่กัด นั่งยิ้มอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา (นั่นมันรูปปั้นว้อย)


เข้ามาในบ้าน ก็มีน้องเหมียว 2 นางมาต้อนรับ

มาดูรอบๆ บ้านกันบ้าง


รูปนี้เบลอมาก เพราะลืมเอามาโครออก แต่ถึงเบลอยังไงก็เบลอว่ารักแถบนะคะ (แหวะ)


อันนี้ดอกหิรัญญิกาค่ะ (คิดว่าเขียนถูกนะ) เป็นดอกไม้เลื้อยขนาดใหญ่ สวยแปลกดีค่ะ



สำหรับรูปอื่นๆ ในตัวบ้าน ไปดูได้จาก เว็บไซต์ www.lazyriverhouse.com กันเอาเองนะคะ หน่อยไม่ได้ถ่ายเพราะมัวเล่นนับเลขอยู่ หมายถึงเล่นนับเลขโดยใช้แผ่นพลาสติกขอบทองจำนวน 52 ใบน่ะค่ะ (บอกเค้าว่าเล่นไพ่ก็จบมั้ยยะ) 

เล่นไพ่กันจนพอใจแล้ว สมาชิกเราจำนวนนึงก็ไปช่วยกันทำอาหารว่างทานกัน หนึ่งในนั้นคือ Honey Toast 


อร่อยมากขอบอก


นอกจากนั้นก็มี strawberry smoothie (ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะตอนนั้นมือเลอะเนยอยู่ค่ะ) แล้วก็มะม่วงน้ำปลาหวานฝีมือคุณแม่ของสมาชิกแกงค์เรานั่นเอง


เราล้อมวงกันกินของว่างศาลาริมน้ำ พี่ชานึกว่าเราเล่นไพ่กัน เลยเอาแตงโมมาเสิร์ฟพร้อมพูดคุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง พี่ชาเป็นคนละเอียดมากบอกเล่าทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ในการมาพักผ่อนที่นี่ พร้อมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบ้านหลังนี้



พอของว่างหมด เราจับกลุ่มเล่นไพ่อีกครั้ง จนประมาณ 5 โมงเย็นก็เริ่มนำอาหารทะเลที่เราเตรียมไว้มาย่างบนเตาถ่าน พร้อมสั่งอาหารจากร้านครัวแม่อุไรมาเสริมด้วย

หลังจากจัดการอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว เราก็เก็บล้างจานของที่นี่ และเข้าบ้านเพราะยุงที่ศาลาก็มีพอสมควร เราเข้ามาอาบน้ำอาบท่า และดื่มเครื่องดื่มขมๆ เปรี้ยวๆ ฝาดๆ กัน (เก๊าเลิกดื่มแล้วน้าาาา สุขภาพเริ่มไม่ดีแบ้ว -- จะทำเสียงแบ๊วทำไมเนี่ย) และแน่นอนต้องมีการนับเลขก่อนเข้านอน

คืนนั้นหน่อยนอนไม่หลับ เพราะปวดแขนมาก กว่าจะหลับน่าจะตี 3 แล้ว ตอนเช้าเลยตื่นสายกว่าเพื่อน ประมาณ 9 โมงครึ่ง พอลงมาปุ๊บก็มีอาหารเช้ามารอ นั่นคือข้าวต้มหมูแสนอร่อยที่ทางบ้านพักเตรียมไว้ให้ และถ้าใครตื่นเช้าก็จะมีเรือก๋วยจั๊บมาขายที่ท่าน้ำ หน่อยได้กินข้าวต้มหมู (ไปหลายถ้วย) พร้อมทั้งขนมปังหน้าพิซซ่าที่เพื่อนของเราทำกันเอง 

หลังจากนั้นพวกเราก็เก็บข้าวเก็บของเช็คเอ้าท์กันค่ะ





ป้ายเตือนหน้าบ้านค่ะ เห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว ก็ระวังแล้วนะคะ  แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ

ไว้ถ้ามีโอกาสจะกลับมาใหม่น้าาาา

--------—-----------
แถม

ก่อนกลับเราได้แวะวัดบางกุ้งก่อนค่ะ เพื่อชมและสักการะหนึ่งในสถานที่ unseen ของเมืองไทย
ซึ่งตัวพระอุโบสถอยู่ภายใต้ต้นไม้ที่มีรากเลื้อยอยู่รอบๆ ค่ะ




พระประธาน


ใบชาตราสามม้ารึเปล่าเนี่ย

จบแล้ว รีวิวทริปสั้นๆ กับเพื่อนฝูงคนสนิทค่ะ

สำหรับคราวหน้า คงได้มาเขียนช่วงหลังสงกรานต์แน่ๆ

แล้วหน่อยไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหน จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะคะ

วันนี้ไปล่ะ ขอให้มีความสุขกับวันหยุดยาวนะคะ

รักนะจุ๊บๆ











No comments:

Post a Comment